ข่าวทั่วไป หน้าแรก

หุ้นเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ

หุ้นเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ ตลาดเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองไปข้างหน้าถึงข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สำคัญ

หุ้นเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ ตลาดเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองไปข้างหน้าถึงข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สำคัญของสหรัฐฯซึ่งจะแจ้งการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมนโยบายที่จะเริ่มในวันที่ 31 ตุลาคม ในออสเตรเลีย ในวันนี้เราจะพูดถึงปัจจัยที่ทำให้ตลาดเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้น นักลงทุนทั่วโลกมองไปข้างหน้าถึงข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา

ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในการประชุมนโยบายที่จะเริ่มในวันที่ 31 ตุลาคม ที่จัดขึ้นในออสเตรเลีย ในช่วงเวลานี้, ตลาดเอเชียแปซิฟิกมีการปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความสังเกตของนักลงทุนที่มองไปข้างหน้าถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อของผู้บริโภค ที่มีผลต่ออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักลงทุนทั่วโลก

โดยเฉพาะในวันที่ดัชนีนี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 1.76% ภายหลังจากที่ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ดัชนี Hang Seng เป็นอินดิเคเตอร์สำคัญในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งเน้นไปที่บริษัทในฮ่องกงและบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับฮ่องกง โดยมีบริษัทชั้นนำหลายร้อยบริษัทในดัชนีนี้ การเพิ่มขึ้นของดัชนี Hang Seng นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของดัชนี CSI 300 ของจีนอีก 0.83% ในคืนก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯ และสัญชาติทั้งสองเป็นสัญชาติที่มีอิทธิพลใหญ่ในตลาดโลก

หุ้นเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ ตลาดเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองไปข้างหน้าถึงข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สำคัญ

หุ้นเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงดัชนี Dow Jones, S&P 500

ดัชนีหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดัชนี Dow Jones, S&P 500, และ Nasdaq Composite ก็ปิดลงในสีเขียวในคืนนั้น ดัชนี Dow Jones ปรับตัวขึ้น 0.19% หรือ 65.57 จุด จากจุดเริ่มต้น 33,804.87 จุด และดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.43% เมื่อปิดที่ 4,376.95 จุด ในขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ก็เพิ่มขึ้น 0.71% และปิดที่ 13,659.68 จุด สิ่งนี้ยังเติบโตขึ้นเมื่อนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดการณ์ว่าข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

ที่กำลังจะมาถึงจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.6% จากปีก่อน ในระหว่างช่วงเวลาที่ตลาดกำลังประเมินความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่กำลังเกิดขึ้นในสาธารณรัฐอิสราเอลและหมู่เกาะฮามาส มีผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่ออินเดียอย่างมาก ซึ่งเป็นประเทศที่พึงสนใจอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ Radhika Rao นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ DBS ได้กล่าวว่าตะวันออกกลางเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอินเดีย

โดยมีส่วนร่วมในการนำเข้าของประเทศนี้ถึง 19% โดยมีการซื้อขายกันอย่างต่อเนื่อง แต่กล่าวเถอะว่า การเพิ่มราคาขายปลีกของน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเงินเฟ้อของอินเดีย การค้าขายกับตะวันออกกลางมีความสำคัญอย่างมากสำหรับอินเดีย เนื่องจากคู่ค้านี้มีบทบาทที่สำคัญในการรองรับเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การเกิดความขัดแย้งในนี้อาจส่งผลกระทบต่ออินเดียอย่างมาก เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่ออินเดียในกรณีที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างสิ้นเชิง

อินเดียอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์ อาจมีการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้าหรือนโยบายอื่น ๆ ที่มีไว้เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ อินเดียจำเป็นต้องรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของตนเอง และการติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในตลาดน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญ โดยเรียนรู้และปรับปรุงนโยบายต่าง ๆ เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

โดย gclub