ข่าวทั่วไป หน้าแรก

ปี2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์

ปี2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่าเราอาจพบกับอุณหภูมิสูงที่สุดในประวัติการณ์ของโลก นี่เป็นผลมาจากการ

ปี2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่าเราอาจพบกับอุณหภูมิสูงที่สุดในประวัติการณ์ของโลก นี่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่เห็นในเดือนกันยายนและฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ Copernicus Climate Change Service (C3S) ของสหภาพยุโรปได้รายงานว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายนของปีนี้สูงขึ้นถึง 1.4 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงระหว่างปี 1850 ถึง 1900 ที่เป็นช่วงก่อนอุตสาหกรรม

ค่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเพียง 0.5 องศาเซลเซียส. และเมื่อเทียบเท่ากับปี 2559 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 0.05 องศาเซลเซียส. สิ่งนี้ส่งผลให้ปี 2023 ถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติการณ์ที่เราเคยรู้มา การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิสามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น กิจกรรมมนุษย์ที่ส่งออกก๊าซเรือนกระจก, การเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลก, และอื่น ๆ อีกมาก ในปี 1940 นั้นเป็นช่วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่สองกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางด้านทหาร

และทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย แต่ในขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มสะท้อนตัวเองไปสู่ปัญหาทางสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในเดือนกันยายน นักวิจัยได้ทำการบันทึกความผิดปกติของอุณหภูมิในเดือนนี้อย่างละเอียด จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมา เราพบว่าอุณหภูมิในเดือนกันยายนมีความผิดปกติมากขึ้นถึง 1.75 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงอ้างอิงก่อนยุคอุตสาหกรรม นี่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัยและควรนำมาศึกษาอย่างละเอียด

เดือนกันยายน ปี2023 อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 1.4 องศาเซลเซียส

ความผิดปกตินี้อาจมีผลมาจากหลายสาเหตุ อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของโลกหรือมีสาเหตุจากกิจกรรมมนุษย์ เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงบรรยากาศ การใช้พลังงานที่สร้างประโยชน์แต่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ความผิดปกติของอุณหภูมิในเดือนกันยายนไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะในพื้นที่หนึ่ง แต่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศทั่วโลก การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิอาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศอย่างร้อนและแห้งในบางพื้นที่

ในขณะที่บางพื้นที่อาจเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมและสภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิยังสามารถมีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศที่ไม่เป็นปกติอื่นๆ เช่น การเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดพายุและน้ำท่วม หรือการทำให้สภาพแห้งและความร้อนมากขึ้นในบางพื้นที่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในเดือนกันยายนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและควรนำมาศึกษาอย่างละเอียด เราไม่สามารถปล่อยให้ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

การทำความเข้าใจและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เราสามารถรักษาสภาพภูมิอากาศของโลกให้ดีขึ้นสำหรับรุ่นต่อๆ ไป และลดความเสี่ยงต่อสภาพภูมิอากาศที่ไม่เป็นปกติในอนาคต ในเดือนที่ผ่านมา รายงานสำคัญของสหประชาชาติได้เผยแพร่ข้อมูลที่ทำให้เรารู้ว่าโลกยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายระยะยาวของข้อตกลงปารีสปี 2015 ซึ่งมุ่งหมายที่จะพยายามลดภาวะโลกร้อนให้เหลือ 1.5 องศาเซลเซียส

เหนือระดับก่อนอุตสาหกรรมได้ ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ เพราะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความอยู่รอดของมนุษย์ในอนาคต การบรรลุเป้าหมายระยะยาวของการลดอุณหภูมิให้เหลือ 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนอุตสาหกรรมเป็นภารกิจที่จำเป็นต้องดำเนินงานอย่างเร่งด่วน เราต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและความอยู่รอดของมนุษย์ในอนาคตที่ยั่งยืนในโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วและที่ผ่านมา

โดย gclub 

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o